แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การทำลายทรัพย์สิน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การทำลายทรัพย์สิน แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568

จลาจลเนปาลกับการประกันอัคคีภัยที่จำเป็น

จลาจลเนปาลกับการประกันอัคคีภัยที่จำเป็น

จลาจลที่เนปาล

การประท้วงที่เนปาล: บทเรียนที่มาพร้อมกับไฟ และการประกันอัคคีภัยที่จำเป็น

          การประท้วงของกลุ่ม Gen Z ในเนปาลที่ลุกฮือขึ้นจนนำไปสู่การเผาทำลายทรัพย์สินและอาคารของรัฐบาล ไม่ใช่แค่เพียงเหตุการณ์ทางการเมือง แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดฝัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน การประกันอัคคีภัย

          หลายคนอาจมองว่าการประกันอัคคีภัยเป็นเรื่องไกลตัว หรือเป็นเพียงการคุ้มครองบ้านเรือนจากไฟไหม้ตามปกติ แต่เหตุการณ์ในเนปาลชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่จากอุบัติเหตุ แต่ยังครอบคลุมไปถึงความวุ่นวายทางสังคมที่อาจปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ

ความเสี่ยงที่นอกเหนือจากเหตุการณ์ปกติ

          การจลาจลในเนปาลเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการทำลายทรัพย์สินไม่ได้เกิดจากความประมาทหรืออุบัติเหตุเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ที่ขับเคลื่อนด้วยความโกรธแค้นและความไม่พอใจที่สะสมมานาน การเผาทำลายอาคารรัฐสภา หรือแม้แต่บ้านพักส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี ล้วนแล้วแต่เป็นความเสียหายที่ไม่อาจคาดเดาได้ล่วงหน้า

          เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเนปาลเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วโลกในประเทศที่มีความขัดแย้งทางการเมืองหรือความเหลื่อมล้ำทางสังคม การประท้วงที่รุนแรงสามารถเปลี่ยนไปสู่การปล้นสะดมหรือการทำลายทรัพย์สินได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่เจ้าของทรัพย์สินต้องตระหนักถึง

บทบาทของการประกันอัคคีภัยในสถานการณ์วิกฤต

          กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความคุ้มครองสำหรับการจลาจลหรือการก่อการร้ายโดยอัตโนมัติ แต่ผู้เอาประกันภัยสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม ที่เรียกว่า “ภัยจากการจลาจลและการนัดหยุดงาน” เพื่อครอบคลุมความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์เหล่านี้ การเลือกซื้อความคุ้มครองเสริมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจหรือผู้ที่มีทรัพย์สินตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

          สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องปิดตัวลงเพราะความเสียหายจากการจลาจล ความคุ้มครองเสริมนี้อาจช่วยให้พวกเขาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แทนที่จะต้องล้มละลายเพราะไม่มีทุนในการซ่อมแซมหรือเริ่มต้นใหม่

          นอกจากนี้ การประเมินความเสี่ยงและพิจารณาทำประกันอัคคีภัยจึงไม่ควรจำกัดแค่ปัจจัยทางกายภาพ เช่น ระบบไฟฟ้าหรือวัสดุก่อสร้าง แต่ควรพิจารณาปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย

คำถามที่ต้องถามตัวเอง

          เหตุการณ์ในเนปาลควรเป็นแรงกระตุ้นให้เราหันมาพิจารณาคำถามสำคัญเหล่านี้

          🔹ทรัพย์สินของคุณตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงทางการเมืองหรือไม่?

          🔹กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่คุณมีอยู่ครอบคลุมความเสียหายจากการจลาจลหรือไม่?

          🔹ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่สงบในสังคมจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรือชีวิตของคุณมากน้อยแค่ไหน?

          การทำความเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้และการเตรียมพร้อมด้วยกรมธรรม์ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณและทรัพย์สินของคุณปลอดภัยจากไฟที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ แต่เกิดจากความไม่สงบทางสังคมที่ไม่คาดฝัน

About