แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ PHEV แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ PHEV แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568

🚨 PHEV ไม่ได้ "เขียว" จริง! รายงานชี้ ปล่อยมลพิษเกือบเท่ารถเบนซิน

🔌⛽ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ไม่ได้ "โลกสวย" อย่างที่คิด: รายงานชี้ ปล่อยมลพิษเกือบเท่ารถน้ำมันเบนซินในการใช้งานจริง

          รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) ถูกนำเสนอมานานในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างรถยนต์น้ำมันสู่ยุค EV เต็มรูปแบบ ด้วยคำสัญญาว่าจะช่วยลดการปล่อยมลพิษได้อย่างมากในขณะที่ยังสามารถขับทางไกลได้อย่างไร้กังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด

          ทว่ารายงานล่าสุดจากกลุ่มนักวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมและการขนส่งของยุโรป ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่น่าตกใจ โดยพบว่า PHEV ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในโลกแห่งความเป็นจริง สูงกว่าที่ตัวเลขทางการระบุไว้เกือบ 5 เท่า และมีความแตกต่างด้านมลพิษกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินทั่วไปเพียงน้อยนิดเท่านั้น (The Guardian, 2025)

ตัวเลขจริง VS ตัวเลขในห้องแล็บ: ช่องว่างที่ใหญ่เกินคาด

          ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานจริงจากรถยนต์ PHEV กว่า 800,000 คันในยุโรป ระหว่างปี 2021 ถึง 2023 สรุปได้ดังนี้

รายละเอียด ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ (WLTP) ผลการใช้งานจริง (Real-World Data)
การปล่อย CO2 (เทียบกับตัวเลขทางการ) 1.0 เท่า 4.9 เท่า
การปล่อย CO2 (เทียบกับรถน้ำมัน) ต่ำกว่า 75% ต่ำกว่าเพียง 19%
สัดส่วนการขับขี่ด้วยไฟฟ้า (Utility Factor) 84% เพียง 27%

          ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่า PHEV ไม่ได้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่ผู้ผลิตกล่าวอ้าง และไม่ได้ตอบโจทย์การลดมลพิษได้มากเท่าที่ควร

เหตุผลเบื้องหลังทำไม PHEV ถึงไม่ "เขียว" จริง

           นักวิจัยระบุว่าความแตกต่างมหาศาลนี้เกิดจาก สมมติฐานที่ผิดพลาดเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งาน ของผู้บริโภค

  1. ไม่ชาร์จ ไม่ใช่ไฮบริด: ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ใช้งานรถ PHEV โดยพึ่งพาเครื่องยนต์สันดาปเป็นหลัก เพราะการชาร์จแบตเตอรี่ขนาดเล็กบ่อยครั้งเป็นเรื่องไม่สะดวก หรือขาดโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จ ทำให้สัดส่วนการใช้ไฟฟ้าจริงอยู่ที่เพียง 27% เท่านั้น
  2. มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังไม่พอ: แม้แต่ในขณะที่รถถูกตั้งค่าให้ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (EV Mode) ก็ยังพบว่าเครื่องยนต์เบนซินจะถูกเรียกให้ทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อเสริมกำลังเกือบหนึ่งในสามของระยะทางที่ขับขี่ เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าอาจมีกำลังไม่เพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนทั้งหมด
  3. ปัญหาด้านดีไซน์และเทคโนโลยี: PHEV ยังขาดระบบชาร์จเร็ว (Fast Charging) ทำให้ผู้ขับขี่เลือกเติมน้ำมันแทนการรอชาร์จ ส่งผลให้รถวิ่งด้วยน้ำมันแทบจะตลอดเวลา

ผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม

  • ผู้ขับขี่จ่ายแพงกว่าที่คิด: การใช้เชื้อเพลิงที่สูงกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ผู้ขับขี่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันสูงกว่าตัวเลขทางการถึงหลายร้อยดอลลาร์ต่อปี
  • บริษัทผู้ผลิต "รอด" ค่าปรับ: ตัวเลขการปล่อยมลพิษที่ต่ำเกินจริงจากผลการทดสอบ ทำให้กลุ่มบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่สามารถหลีกเลี่ยงค่าปรับจากกฎหมาย CO2 ของสหภาพยุโรปได้เป็นมูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านยูโร
  • ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง: ผลการศึกษาได้จุดประเด็นทางการเมืองอีกครั้ง โดยมีนักการเมืองบางรายในยุโรปพยายามผลักดันให้ PHEV เป็น "ทางเลือกที่ยืดหยุ่น" เพื่อใช้ต่อต้านการบังคับใช้มาตรการห้ามขายรถยนต์สันดาปในปี 2035

บทสรุป

          รายงานนี้เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าการประเมินประสิทธิภาพด้านมลพิษของรถยนต์ PHEV ต้องปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานจริง ไม่ใช่เพียงตัวเลขในห้องปฏิบัติการ สำหรับผู้บริโภคที่กำลังพิจารณาซื้อรถยนต์พลังงานทางเลือก การวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมการขับขี่และการชาร์จของตนเองอย่างจริงจัง จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าการตัดสินใจซื้อรถนั้น "สีเขียว" อย่างแท้จริงทั้งต่อกระเป๋าสตางค์และสิ่งแวดล้อม

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ZEEKR 9X อัครเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดใหม่ ชาร์จ 9 นาที วิ่งไกล 1,250 กม. ทวงบัลลังก์รถหรูแห่งอนาคต

รถยนต์ไฟฟ้า ZEEKR 9X

          ZEEKR (ซีเคอร์) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมในเครือ Geely Holding Group ได้สร้างความฮือฮาในตลาดโลกด้วยการเปิดตัว ZEEKR 9X อัครเอสยูวี (SUV) สุดหรูแบบ Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำและสมรรถนะที่เหนือจินตนาการ ด้วยการผสานความแรงระดับซูเปอร์คาร์เข้ากับความหรูหราอลังการ ทำให้ ZEEKR 9X ถูกจับตามองในฐานะคู่แข่งสำคัญของรถ SUV หรูจากยุโรป

ไฮไลท์เด่น: เร็ว แรง และชาร์จไวเหลือเชื่อ

          ZEEKR 9X ไม่ได้เป็นเพียงรถ SUV ขนาดใหญ่ทั่วไป แต่เป็นแฟลกชิปที่รวมเอาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาไว้ในคันเดียว โดยมีจุดเด่นที่ทำลายขีดจำกัดของรถยนต์ PHEV

  1. ขุมพลังมหาศาล (1,381 แรงม้า)
  2. ZEEKR 9X มาพร้อมระบบอัจฉริยะ SEA Super Hybrid รุ่นแรกของแบรนด์ ที่มอบกำลังสูงสุดถึง 1,030 กิโลวัตต์ (ประมาณ 1,381 แรงม้า) ในรุ่นท็อป ทำให้รถ SUV คันยักษ์ที่มีน้ำหนักตัวกว่า 3 ตัน สามารถทำอัตราเร่ง 0−100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ซึ่งเทียบเท่ารถสปอร์ตสมรรถนะสูง

  3. สถาปัตยกรรม 900V และ 6C Ultra-Fast Charging
  4. หัวใจสำคัญคือการใช้แพลตฟอร์ม SEA-S ที่รองรับสถาปัตยกรรมขับเคลื่อนไฟฟ้าแรงดันสูง 900V และเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 6C ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 20−80% ได้ในเวลาเพียง 9 นาที เท่านั้น!

  5. วิ่งไกลทะลุพิกัด
  6. วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน (EV Range): ทำได้ไกลถึงประมาณ 380 กม. (มาตรฐาน CLTC) ด้วยแบตเตอรี่ NMC "Xiaoyao" ขนาด 70kWh

    ระยะทางวิ่งรวมสูงสุด: สามารถทำได้ไกลถึง 1,250 กม. (มาตรฐาน CLTC) ทำให้หมดความกังวลเรื่องระยะทางในการเดินทางไกล

ดีไซน์และเทคโนโลยี "New Luxury"

ZEEKR 9X ถูกออกแบบภายใต้ปรัชญา "New Luxury" ที่ผสานความหรูหราสง่างามเข้ากับความล้ำสมัยในสไตล์ SUV ระดับโลก

  • ภายนอกสุดอลังการ
  • โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมชิ้นเดียวกว้าง 1.2 เมตร และชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน "Vast Star Diamond Matrix" ที่ประดับด้วยเหลี่ยมเพชรมากถึง 42,242 เหลี่ยม ดีไซน์ด้านข้างให้ความรู้สึกเหมือนเรือยอชต์สุดหรู

  • ห้องโดยสาร 6−7 ที่นั่งระดับพรีเมียม
  • ภายในเน้นความกว้างขวางและสะดวกสบาย เบาะแถวที่สองบางรุ่นสามารถปรับหมุนได้ พร้อมเบาะนวดและระบบรองรับที่นั่งอัจฉริยะ

  • ระบบเครื่องเสียงทำลายสถิติ
  • ติดตั้งระบบเสียง Naim สุดหรู (แบรนด์ที่เคยเป็นเอกสิทธิ์ของ Bentley) ที่มาพร้อมลำโพงมากถึง 32 ตำแหน่ง มีกำลังขับสูงสุดถึง 3,868 วัตต์ ซึ่ง ZEEKR เคลมว่าเป็นสถิติโลกใหม่ของระบบเสียงในรถยนต์

ราคาจำหน่าย (ในประเทศจีน)

          ZEEKR 9X มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย โดยมีราคาเริ่มต้นพรีเซลในประเทศจีนอยู่ที่ประมาณ 465,900–599,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยโดยประมาณเริ่มต้นที่ 2.12 – 2.73 ล้านบาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนและภาษี)

          หมายเหตุ: ZEEKR 9X ได้เริ่มจำหน่ายและส่งมอบในประเทศจีนแล้ว แต่ยังไม่มีกำหนดการนำเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ณ ขณะนี้

ช่วงราคาคาดการณ์เบี้ยประกันชั้น 1

          เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งรถยนต์ไฟฟ้าและ MPV/SUV ไฟฟ้าหรูในไทย (เช่น Tesla Model 3/Y ที่เบี้ยเฉลี่ย 45,000 - 78,000 บาท หรือ MG Maxus 9 ที่เบี้ย 24,000 - 47,000 บาท) และพิจารณาจากราคาและเทคโนโลยีที่สูงกว่ามากของ ZEEKR 9X (โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม 900V) อาจมีราคาอยู่ที่ประมาณ 70,000 - 90,000 บาทต่อปี

          ผู้ซื้อ ZEEKR 9X ควรเตรียมงบประมาณสำหรับค่าเบี้ยประกันชั้น 1 ไว้ในระดับ 70,000 บาทขึ้นไปต่อปี และต้องพิจารณาเงื่อนไขสำคัญในกรมธรรม์อย่างละเอียด โดยเฉพาะความคุ้มครองที่เกี่ยวข้องกับ แบตเตอรี่แรงดันสูง และการซ่อมบำรุงใน ศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน ที่รองรับเทคโนโลยี 900V ของรถยนต์รุ่นนี้ครับ

About